ชนวนมวลสาร รุ่น “แก้วสารพัดนึก” พระอาจารย์แดง วัดป่าโนนเค็ง

รายละเอียดของมวลสารที่ใช้ในการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่น “แก้วสารพัดนึก” มีดังนี้:

๑. ช่อสัตตนาคารำลึก ปี ๒๕๖๕ วัดพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม

ช่อสัตตนาคารำลึก ปี ๒๕๖๕ วัดพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม จัดสร้างขึ้นเพียง ๓ ช่อ โดยมีการตอกหมายเลขกำกับ คือ เลข ๘ เลข ๙ และเลข ๑๖๘ ซึ่งช่อที่กล่าวถึงนี้เป็น หมายเลข ๘ และกำลังจะถูกนำไปใช้เพื่อพลีเป็นมวลสารสำคัญในการจัดสร้างเหรียญรุ่น “แก้วสารพัดนึก” พระอาจารย์แดง วัดป่าโนนเค็ง จังหวัดศรีสะเกษ

ทั้งนี้ ช่อสัตตนาคารำลึกหมายเลข ๘ ได้รับความเมตตาจาก พระครูพนมปรีชากร, ดร. ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร และเลขานุการวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร มอบให้แก่ทีมงานผู้สร้าง เพื่อนำไปเป็นมวลสารในการจัดสร้างวัตถุมงคลครั้งสำคัญดังกล่าว

การได้รับมอบช่อสัตตนาคารำลึกครั้งนี้ นับเป็นเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ และเป็นการสืบสานเจตนารมณ์แห่งการบูชาองค์พระธาตุพนม ควบคู่กับการสร้างสรรค์วัตถุมงคลอันทรงคุณค่า เพื่อเป็นที่ระลึกและเป็นศูนย์รวมศรัทธาของพุทธศาสนิกชนสืบไป

๒. ปรอทเพชร
๓. ตติยธาตุ คือ แผ่นจารความยาว ๑๘ ศอก ประกอบด้วยแผ่นเงิน ทองเหลือง และทองแดง
๔. จตุธาตุ คือ การหลอมรวมระหว่างตติยธาตุกับปรอทเพชร
๕. พระอาจารย์ต้อม วัดท่าสะแบง ได้เมตตามอบแท่งชนวนนวมมวลสารทั่วประเทศ ให้ใช้และเป็นหนึ่งในมวลสารหลัก

๖. หลวงพ่อชำนิ วัดสันติวิหาร จ.ร้อยเอ็ด เมตตาอธิษฐานจิตให้กับชนวนมวลสารที่ได้จัดเตรียมและหลอมรวมไว้แล้ว มอบให้ผู้สร้างเพื่อเป็นมวลสารสำคัญ

๗. พระอาจารย์ต้น วัดเหล่าหลวงอุดมธรรม จ.ร้อยเอ็ด ได้เมตตาอธิษฐานจิตเพิ่มความเข้มขลังและพลังศักดิ์สิทธิ์แก่ชนวน

๘. ชนวนมวลสารทั้งหมดได้ถูกนำเข้าสู่ พิธีปลุกเสก ณ วัดพระธาตุหมื่นหิน ในพิธี ไหว้ครู ๖๘ มหาจักรพรรดิยอดรวย
พิธีใหญ่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่ศรัทธาของสานุศิษย์จำนวนมาก นับเป็นการรวมพลังครูบาอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้มาประสิทธิ์ประสาทพุทธคุณแก่มวลสารชุดนี้

๙. แท่งชนวนแผ่นจารยันต์ ๗๗ จังหวัด จากเกจิอาจารย์ทั่วประเทศไทย ผู้ปลุกเสกพระปิดตายอดเศรษฐีโกฏิล้าน
๑๐. แท่งชนวนจากการหลอมรวม โดย ดร.สอง เป็นผู้นำมาให้ ประกอบด้วย:

• ๑. แผ่นทองอธิษฐานของพระคณาจารย์อีสานใต้ ๓ รูป ได้แก่

  • หลวงปู่เกลี้ยง วัดโนนแกด

  • หลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด

  • หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู

  ทั้งสามท่านเป็นพระผู้ทรงภูมิจิตภูมิธรรมสูง และมีวิชาอาคมที่ลึกซึ้ง โดยในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๕๔–๒๕๕๕ ได้มีโอกาสไปกราบนมัสการพระอาจารย์ทั้งสามรูป แต่เนื่องด้วยท่านมีอายุมากแล้ว จึงไม่รบกวนให้ลงเหล็กจาร แต่ขอให้ท่านได้จับแผ่นทองและอธิษฐานจิตลงในแผ่นแทน โดยอธิษฐานให้มีอานุภาพด้าน “พัดโบก” คือ โบกสิ่งไม่ดีออกไป และโบกสิ่งดีเข้ามา
  แผ่นสุดท้ายได้รับการอธิษฐานในพิธีเททองหล่อพระกริ่งของหลวงปู่คำบุ เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งท่านเมตตาลงแป้งเจิมปิดท้ายให้
  ทำไว้ทั้งหมด ๑๖ แผ่น ได้แจกจ่ายไปแล้ว ๑๔ แผ่น มอบให้พี่บีม ๑ แผ่น และเก็บไว้อีก ๑ แผ่น

• ๒. มหาชนวนกรรมฐาน
  ได้รวบรวมแผ่นจารและชนวนเก่าจากพระสายหลวงปู่มั่นจำนวนหลายสิบรูป ซึ่งได้รับการถ่ายทอดอย่างถูกต้องตามสาย จึงได้หลอมรวมไว้ และนำไปซัดเป็นเม็ดกริ่ง เพื่อบรรจุในองค์พระกริ่งที่ได้จัดสร้างไว้ก่อนหน้านี้
  ชนวนส่วนที่ซัดแล้วไม่เป็นเม็ด แต่จับตัวเป็นแผงได้นำมามอบให้เพิ่มเติม
  ชนวนชุดนี้ถือเป็นแหล่งรวมของพลังเมตตาและความเย็นสงบแห่งพระป่ากรรมฐานที่หายากยิ่ง

• ๓. ปรกฤาษี หลวงปู่พรหมา เขมจาโร
  หลวงปู่พรหมาเป็นครูบาอาจารย์ของพระอาจารย์แดง ท่านได้บำเพ็ญเพียรในป่าเขามาเป็นเวลายาวนาน ก่อนที่จะเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
  ท่านมีความเชี่ยวชาญในศาสตร์ของฤาษีอย่างลึกซึ้ง การจัดสร้างและปลุกเสกฤาษีของท่านจึงเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งรูปนาม
  ปรกฤาษีชุดนี้จัดสร้างโดยมูลนิธิหลวงปู่ทิม และนำบางส่วนไปแช่น้ำมันเหล็กไหล
  มีผู้ทดลองแล้วพบว่าเกิดประสบการณ์ ปืนแตก หรือยิงไม่ออกบ่อยครั้ง
  ในโอกาสนี้ ได้มีการมอบปรกฤาษีเนื้อทองแดงจำนวน ๑๑ องค์ และเนื้อทองทิพย์ ๑ องค์

• ๔. แผ่นตะกั่วปลุกเสก
  ผ่านพิธีปลุกเสกมาแล้วมากกว่า ๑๐ พิธี โดยเฉพาะในสายพระกรรมฐานและพระเกจิภาคตะวันออก

๑๑. แท่งชนวนหลวงปู่หงษ์ ได้รับมอบจากอาจารย์เสกสรรค์ เป็นชนวนที่หลอมสืบเนื่องมาตั้งแต่หลวงปู่หงษ์ยังมีชีวิตอยู่
๑๒. สำริดใต้ดินโบราณ
๑๓. ชนวนจากหม้อสำริดโบราณ
๑๔. วัชรธาตุ, แท่งชนวนมากับดวง, แท่งชนวนเสมาดวงคนรวย, ช่อวันสัตตนาคาพระธาตุพนม (มีเพียง ๓ ช่อในโลก)
๑๕. เหล็กไหลจากภูเขาควาย

การจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นนี้ ได้รับการวางแผนและดำเนินการอย่างเป็นลำดับขั้นตอน โดยมีทั้งการเตรียมมวลสาร การอธิษฐานจิต และการเข้าพิธีปลุกเสกหลายวาระ เพื่อความครบถ้วนสมบูรณ์และศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ดังนี้

🔹 วันพฤหัสบดี ที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๖๘

• พิธีหุงปลอดจตุธาตุ โดยพระอาจารย์แดง วรสฺกโก ณ วัดป่าโนนเค็ง จังหวัดศรีสะเกษ
  ซึ่งถือเป็นพิธีเปิดมงคลสำคัญ เริ่มต้นการจัดสร้างอย่างเป็นทางการ โดยการหุงปลอดจตุธาตุนี้มีนัยสำคัญคือการบรรจบธาตุทั้งสี่ (ดิน น้ำ ลม ไฟ) ให้บริบูรณ์ เป็นเคล็ดแห่งการรวมพลังจักรวาลเข้าสู่ชนวนมวลสาร

ชนวนมวลสารของวัตถุมงคล รุ่นแก้วสารพัดนึก จึงผ่านกระบวนการอย่างครบถ้วน ตั้งแต่พิธี หุงปลอดจตุธาตุ การรับและอธิษฐานจิตจากพระเกจิผู้ทรงคุณหลายรูป ตลอดจนการเข้ามหาพิธีปลุกเสกใหญ่ ล้วนเป็นสิ่งยืนยันถึงความตั้งใจจริง ความพิถีพิถัน และพลังแห่งศรัทธาที่มุ่งหวังให้วัตถุมงคลรุ่นนี้ทรงคุณค่าในด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ และความเป็นสิริมงคลแก่ผู้บูชาอย่างแท้จริง

ตะกรุดหล่อมหาอุตม์ : เครื่องคุ้มครองนักรบไทย

ตะกรุดหล่อมหาอุตม์ “ตะกรุดหล่อแจกทหาร” คือวัตถุมงคลอันทรงคุณค่า ที่จัดสร้างขึ้นด้วยเจตนาบริสุทธิ์เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแด่เหล่าทหารหาญผู้ปกป้องแผ่นดินไทย โดยการจัดสร้างครั้งนี้ได้รับการถวายงานโดย สามสิงห์อมูเลท ออก ณ วัดป่าโนนเค็ง จังหวัดศรีสะเกษ

เบื้องหลังการสร้างตะกรุดมหาอุตม์ครั้งนี้เต็มไปด้วยความหมายและพลังแห่งพุทธคุณ ภายในตะกรุดลงอักขระ “ยันต์เทาะมหาอุตถ์” ซึ่งสืบทอดมาจากตำราของ ปู่จุล สิริมังคโล ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพพระเจ้าแห่งภูเขาควาย และยังเป็นหนึ่งในครูบาอาจารย์ของ พระอาจารย์แดง วรสฺกโก

นอกจากยันต์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังได้อุดด้วย ผงพุทธคุณและผงจินดามณี ซึ่งผ่านการเสกอธิษฐานจิตจากพระเกจิทั่วประเทศ ทั้งสิ้น ๗๗ จังหวัด ๑๐๘ วัด ทำให้ตะกรุดดอกนี้อัดแน่นด้วยพุทธคุณรอบด้าน ทั้งแคล้วคลาด คงกระพัน เมตตามหานิยม และโชคลาภ

การจัดสร้างตะกรุดมหาอุตม์ครั้งนี้มีจำนวนเพียง ๕๐๐ ดอก และทั้งหมดถูกกำหนดไว้เพื่อมอบเป็นขวัญกำลังใจแก่เหล่าทหารผู้ปฏิบัติหน้าที่แนวชายแดน ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้ทุกท่านได้มีเครื่องยึดเหนี่ยวคุ้มครองป้องกันภัยในห้วงเวลาที่ต้องเผชิญความเสี่ยงและความยากลำบาก

ดังนั้น ตะกรุดหล่อมหาอุตม์นี้จึงไม่ใช่เพียงเครื่องรางของขลังธรรมดา แต่เป็น สัญลักษณ์แห่งความศรัทธา ความกตัญญู และกำลังใจ ที่มอบจากพุทธศาสนาและครูบาอาจารย์ สู่หัวใจนักรบไทยผู้เสียสละเพื่อบ้านเมือง