สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า ฯ เสด็จฯ เป็นองค์ประธานในพิธีพุทธาภิเษก “พระพุทธสิริเกษตร” และทรงเททองหล่อพระเกศ ณ วัดหนองแดง จังหวัดมหาสารคาม


วัตถุมงคลรุ่น รูปหล่อองค์ลอย พระพุทธสิริเกษตร


วัตถุมงคลรุ่น ทูลเกล้า



รายนามพระสงฆ์ ร่วมพิธีพุทธาภิเษก
กำหนดการพุทธาภิเษก

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เวลา ๑๓ นาฬิกา ๓๙ นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดหนองแดง ตำบลหนองกุง อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม เพื่อทรงเป็นองค์ประธานในพิธีพุทธาภิเษก “พระพุทธสิริเกษตร” และทรงเททองหล่อพระเกศ อันเป็นพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ ที่จัดขึ้นด้วยจิตศรัทธาอันแรงกล้าของพระครูโสภณสราธิการ หรือ หลวงปู่ขำ เกสาโร พระเถระผู้ทรงคุณ แห่งวัดหนองแดง
พิธีพุทธาภิเษกในวันดังกล่าว นับเป็นงานบุญใหญ่ที่เปี่ยมด้วยพุทธานุภาพ โดยมีพระสงฆ์ผู้ทรงภูมิธรรมและมีชื่อเสียงจากทั่วประเทศ ร่วมประกอบพิธีกว่า ๑๐๘ รูป เพื่อเสริมบารมีพลังจิตให้แก่วัตถุมงคลในพิธี
การจัดสร้าง “พระพุทธสิริเกษตร” และเหรียญที่ระลึก “รุ่นทูลเกล้า” จัดขึ้นโดยโรงพยาบาลนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ กระทรวงสาธารณสุข ตามดำริของหลวงปู่ขำ เกสาโร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า ฯ ทรงเจริญพระชนมายุ ๗๐ พรรษา ในวันที่ ๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
โดยได้จัดสร้างพระพุทธสิริเกษตร ขนาดหน้าตัก ๕ นิ้ว จำนวน ๗๐ องค์ เท่ากับพระชนมพรรษา และจัดสร้างเหรียญที่ระลึก “หลวงปู่ขำ เกสาโร รุ่นทูลเกล้า” จำนวน ๙๙,๙๙๙ เหรียญ ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้เชิญอักษรพระนามาภิไธย สธ. มาประดิษฐานบนเหรียญ เพื่อความเป็นสิริมงคลสูงสุด
รายได้จากการให้ประชาชนเช่าบูชาวัตถุมงคลทั้งหมด จะนำไปใช้ในกิจการสาธารณประโยชน์ อาทิ การรักษาผู้ป่วยยากไร้ พระภิกษุอาพาธ การปรับปรุงอาคารห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลนาโพธิ์ รวมถึงน้อมนำรายได้บางส่วนขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า ฯ เพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย


ต่อมาในวันที่ ๑๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ หลวงปู่ขำ เกสาโร ได้เมตตาอธิษฐานจิตเดี่ยวจารึกพลังจิตเพื่อปลุกเสกวัตถุมงคล “รุ่นทูลเกล้า” อีกครั้งด้วยองค์ท่านเอง เพื่อเสริมพุทธานุภาพให้เปี่ยมล้นด้วยเมตตา มหาลาภ แคล้วคลาด และเป็นสิริมงคลแก่ผู้บูชา ก่อนแจกจ่ายให้แก่พุทธศาสนิกชนและผู้มีจิตศรัทธาที่ได้ร่วมบูชาวัตถุมงคลรุ่นนี้ไป
โรงพยาบาลนาโพธิ์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาด ๓๐ เตียง ตั้งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดบุรีรัมย์ประมาณ ๘๐ กิโลเมตร ให้บริการประชาชนในอำเภอนาโพธิ์และพื้นที่ใกล้เคียงรวมกว่า ๓ หมื่นคน ส่วนใหญ่มีปัญหาสุขภาพจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคไต
หลวงปู่ขำ เกสาโร ท่านมีความใกล้ชิดกับโรงพยาบาลนาโพธิ์ ทั้งเคยเข้ารับการรักษาอาการอาพาธ และเคยเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า ฯ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด “อาคารเวชกิจบำรุง” เมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ จึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาระบบสาธารณสุขของชุมชน
พระครูโสภณสราธิการ หรือ หลวงปู่ขำ เกสาโร เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เกิดเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๗๑ ณ บ้านหนองแดง ตำบลหนองกุง อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองแดงตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๑๗ ปัจจุบันมีอายุ ๙๗ ปี พรรษา ๗๗
การจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นทูลเกล้าในครั้งนี้ จึงมิใช่เพียงแค่การเช่าบูชาวัตถุมงคล แต่เป็นการร่วมสืบสานพระพุทธศาสนา ส่งเสริมสาธารณสุข และร่วมทำบุญใหญ่ถวายเป็นพระราชกุศล อันเป็นมหากุศลที่ควรอนุโมทนายิ่ง

พลีบล็อก ทำลายแม่พิมพ์
เพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์และความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น หลังเสร็จสิ้นพิธีกรรมตามขั้นตอนอย่างครบถ้วน ได้มีการ พลีบล็อก หรือ ทำลายแม่พิมพ์ (บล็อกเหรียญ) ทันที โดยถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่แสดงถึงเจตนาบริสุทธิ์ของผู้จัดสร้าง และยืนยันว่าเหรียญรุ่นนี้จะไม่มีการจัดสร้างซ้ำหรือสร้างเพิ่มในอนาคตแต่อย่างใด
การพลีบล็อกไม่เพียงแต่เป็นการป้องกันการเลียนแบบหรือการสร้างซ้ำที่อาจลดทอนคุณค่าทางจิตวิญญาณ หากยังเป็น สัญลักษณ์แห่งการสละและความตั้งใจจริง ในการมอบวัตถุมงคลที่เปี่ยมด้วยพลังศรัทธาและพุทธคุณให้กับผู้มีจิตศรัทธาโดยแท้


สุดยอดแห่งมหามงคล อันทรงคุณค่ายิ่ง
“รุ่นทูลเกล้า” เป็นเหรียญที่เปี่ยมไปด้วยสิริมงคลอันยิ่งใหญ่ และมีความพิเศษเหนือกาลเวลา ด้วยเหตุแห่งมงคลอันประเสริฐหลากประการ อันควรค่าแก่การสักการะและเก็บรักษาไว้เป็นมรดกแห่งศรัทธา ดังนี้
๑. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯ ทรงเป็นองค์ประธานในพิธีมหาพุทธาภิเษก นับเป็นเกียรติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของรุ่น
๒. ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกโดยพระสงฆ์จำนวน ๑๐๘ รูป ซึ่งล้วนเป็นพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิทั่วประเทศ
๓. ยันต์มหามงคลซึ่งหลวงปู่ได้เขียนขึ้นด้วยตนเอง เพื่ออธิษฐานจิตเฉพาะสำหรับ “รุ่นทูลเกล้า” เท่านั้น
๔. เหรียญ “ยิ้ม หันข้าง” รุ่นแรกของหลวงปู่ อันหายากและเปี่ยมด้วยพุทธคุณ
๕. นับเป็นเหรียญทูลเกล้าเหรียญแรกของหลวงปู่ที่จัดสร้าง ณ วัด ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นศูนย์รวมจิตใจของศิษยานุศิษย์
๖. เป็นเหรียญที่ประดิษฐาน ตรา “ส.ธ.” ซึ่งเป็นพระราชทาน และถือเป็นเกจิอาจารย์องค์แรกในประเทศไทยที่ได้รับพระราชทานตรานี้ไว้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของเหรียญ
๗. เป็นเหรียญพระราชทาน ตรา “ส.ธ.” แก่เกจิอาจารย์องค์แรกในภาคอีสาน ซึ่งนับเป็นเกียรติสูงสุดอย่างหาที่เปรียบมิได้
๘. ความเมตตาอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่าน ทรงพระราชทานอนุญาตในการจัดสร้างภายในระยะเวลาเพียง ๑ เดือนหลังจากการกราบทูลขอ
๙. พิธีพุทธาภิเษกของเหรียญรุ่นนี้ นับได้ว่าเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่และอลังการที่สุดในประวัติศาสตร์ของภาคอีสาน
๑๐. เหรียญมีลักษณะพิเศษ คือ “มีชีวิต” เปรียบเสมือนองค์หลวงปู่ท่านจริง แม้แต่รายละเอียดของเส้นผมและลายจีวรก็ถูกถ่ายทอดไว้อย่างวิจิตรพิสดาร
๑๑. ลักษณะของเหรียญมีรูปทรง “แอ่งกระทะ” เชื่อกันว่าเป็นเคล็ดแห่งการรับทรัพย์ เสริมความเป็นสิริมงคลด้านโชคลาภ
๑๒. ความงดงามของเหรียญรุ่นนี้ ถือได้ว่าเป็นเหรียญที่มีความปราณีต ละเอียด และงดงามที่สุดเท่าที่เคยมีมา
๑๓. เหรียญชุดกรรมการจัดสร้าง ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ได้แก่ วัดหงษ์ พระเจ้าใหญ่ และพระธาตุนาดูน ซึ่งล้วนเป็นสถานที่ที่เกี่ยวพันกับประวัติของหลวงปู่อย่างแนบแน่น อีกทั้งยังมีการนำ “แร่เจ้าน้ำเงิน” ซึ่งโบราณเล่าขานกันว่าเป็น “กายสิทธิ์” มีฤทธิ์ โดยเฉพาะด้านการดึงดูดโชคลาภ วาสนา เรียกลาภ เรียกเงินทอง และเสริมโภคทรัพย์อุดมสมบูรณ์
๑๔. เหรียญแท้มีโค้ดพิเศษ ตอก “ข” ด้วยอักษรธรรมอีสาน ม้วนตามแบบโค้ดของเหรียญเจริญพรรุ่นแรก และมีการม้วนทูลเกล้าแบบ ๙ ชั้น
๑๕. มวลสารเนื้อทองแดงของเหรียญ ประกอบด้วยมวลสารสำคัญจากเหรียญเจริญพรรุ่นแรก เมื่อปี พุทธศักราช ๒๕๕๔ อันทรงคุณค่า
๑๖. เหรียญเนื้อมหาชนวน ประกอบด้วยมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากพระเกจิอาจารย์จำนวนถึง ๑๖๘ รูป จากทั่วประเทศ
เหรียญ “รุ่นทูลเกล้า” จึงมิใช่เพียงเครื่องรางของขลัง หากแต่เป็นสัญลักษณ์แห่งศรัทธา ความเมตตา และสิริมงคลอันประเสริฐยิ่ง สมควรคู่แก่การสักการะบูชา และสืบทอดไว้ให้ชนรุ่นหลัง