หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต (เทพเจ้าแห่งสายน้ำ)

หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต (เทพเจ้าแห่งสายน้ำ) วัดเขาตาเงาะ

พระราชภาวนาวชิรคุณ

หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต (เทพเจ้าแห่งสายน้ำ)

             

   หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต เป็นพระสงฆ์สายวิปัสสนา ปัจจุบันมีอายุ ๘๐ ปี พรรษา ๔๘ (วันที่ 17 มิ.ย.2566) ท่านเกิดวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะแม หรือตรงกับวันที่ ๑๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๘๖ ที่ ต.บ้านกอก อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ท่านอุปสมบท วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๑๘ ที่วัดศรีแก้งคร้อ ต.ช่องสามหมอ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ พระอุปัชฌาย์ คือ พระโพธิญาณมุนี ท่านกำเนิดมาในตระกูลคนยากจน บิดาเป็นคนเชื้อสายจีน ชื่อนายฮอ แซ่จึง มารดาเป็นคนไทยชื่อนางพี เฉลียวดี ท่านได้รับการศึกษาเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ก็ต้องออกมาช่วยที่บ้านทำงาน เมื่อโตขึ้นมาก็อาศัยว่ามีฝีมือในทางเย็บผ้า จึงรับจ้างเย็บผ้าหาเลี้ยงชีพ ท่านเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ก็ได้ทำงานในร้านก่อเกียรติ ซึ่งเป็นร้านตัดผ้าชั้นนำในเมืองหลวงยุคสมัยโน้น

                 หลวงปู่จื่อท่านได้กล่าวถึงชีวิตของท่านก่อนเข้าสู่สมณเพศให้ได้รับทราบ ดังนี้ เป็นคน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ พ่อแม่ยากจน สมัยก่อนทำแต่งานเย็บผ้า ตัดเสื้อผ้าไปอยู่หลายแห่ง กรุงเทพฯ ก็ไป แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะงานเย็บผ้ามันเป็นงานที่ต้องทำตลอด เย็บให้คนหนึ่งเหลือคนหนึ่ง เป็นงานที่ไม่สำเร็จ ลำบากไม่ได้หยุด หกทุ่มตีหนึ่งก็ไม่ได้หยุด บางทีงานเร่งก็ต้องทำตลอด

                แต่มาทำงานเป็นช่างเย็บผ้านี้ก็ดี ได้แต่งตัวให้คนสวย ทำงานเย็บผ้าเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียอยู่ ๒๒ ปี เกิดความเบื่อหน่าย เพราะชีวิตครอบครัวมีปากมีเสียงกันเป็นธรรมดา จนกระทั่งแตกความสามัคคีกันแล้วก็เลิกกัน ถ้าไม่เป็นอย่างนี้ก็ไม่เห็นทุกข์ เลิกกัน ๓ ครั้ง แต่พอเลิกกันแล้ว เราหนีไปอยู่ไหนก็ไปตามกลับมา ตอนเลิกก็ไม่ได้คิด เพราะโกรธกันอยู่ ทะเลาะกันก็ธรรมดา หนีไปก็ไปตาม ครั้งสุดท้ายก็กลับมาอีก กลับมาเพราะสงสารลูก

                หลังจากกราบหลวงปู่ผางครั้งนั้นแล้ว ก็ไปรับจ้างเย็บผ้าที่จังหวัด วันนั้นเป็นวันดีที่สุดเลย ทุกข์มามากแล้วแต่ก็ทนอยู่ ทนเพราะลูก ครั้งที่สามนี้ตัดสินใจช่วยเลี้ยงลูกให้โตสักพักหนึ่งก่อน ก็ตั้งใจไว้ว่าอย่างนั้น เพราะวันนั้นนั่งสมาธิแล้วจิตสงบ สมัยนั้นสงครามอินโดจีน เขารบกัน ฝั่งนั้นเป็นวัด ฝั่งนี้เขาทำบาร์เต้นรำ เราก็มีบ้านพักที่เช่าอยู่ตรงนั้น พอดีวันนั้นเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาพอดี  “แปลกจริง…พระจันทร์วันเพ็ญเขาเวียนเทียนกัน แต่เราไม่ได้ไป” (คิดในใจ) ช่วงนั้นกำลังทุกข์ใจมากๆ คิดผิดหลายอย่าง ถึงขนาดคิดจะฆ่าคนตายด้วย คิดไม่ดี ถ้าไม่ทุกข์ก็ไม่เห็นธรรม เลยคิดว่าวันนี้จะขอปฏิบัตินั่งสมาธิ คือไปเห็นหนังสือฉบับหนึ่งดีมากๆ ในหนังสือนั้นบอกว่า

 

ศิษย์สายตรง หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต

 

                “หลวงปู่จื่อ” เป็นศิษย์หลวงพ่อผาง จิตฺตคุตฺโต พระอริยสงฆ์แห่งภาคอีสาน วัดอุดมคงคาคีรีเขต (วัดดูน) อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น หลวงพ่อเป็นพระวิปัสสนา ธุดงค์บำเพ็ญเพียรไปยังสถานที่ต่างๆ ที่มีความสงบร่มรื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ ทำให้ทราบภูมิประเทศ แหล่งประกอบอาชีพและปัญหาการประกอบอาชีพของประชาชนอย่างมากมาย โดยเฉพาะภูมิประเทศอันเป็นแหล่งต้นกำเนิดแหล่งน้ำสำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือคือ “แม่น้ำชี” ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ที่เทือกเขาสูงจากอำเภอหนองบัวแดง ไหลผ่านอำเภอบ้านเขว้า หนองบัวระเหว อำเภอจัตุรัส และอำเภอเมือง จ.ชัยภูมิ

 

เทพเจ้าแห่งสายน้ำ…

 

                เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๓ ขณะที่ท่านนั่งปฏิบัติธรรมอยู่ ณ วัดเขาตาเงาะอุดมพร ประชาชนชาวหนองบัวระเหว ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ท่านจึงคิดพัฒนาแหล่งน้ำ “ลำเชียงทา” เป็นแหล่งน้ำที่ไหลผ่านลงสู่แม่น้ำชี ว่าน่าจะมีแหล่งการเก็บกักน้ำไว้ใช้เพื่อประโยชน์ของชาวชุมชนหนองบัวระเหวและชุมชนใกล้เคียง โดยได้นำพระภิกษุ ลูกศิษย์ และชาวบ้านร่วมกันก่อสร้างเขื่อนดินด้วยงบประมาณอันน้อยนิดของผู้มีจิตศรัทธาบริจาคและงบประมาณของทางราชการที่สนับสนุน ทำให้ประชาชนในอำเภอบ้านเขว้า อำเภอหนองบัวระเหว และอำเภอเมืองชัยภูมิ ทั้ง ๓ อำเภอ ได้มีแหล่งน้ำใช้ทางการเกษตรกรรม หลวงพ่อเป็นผู้เปี่ยมไปด้วยบารมี ท่านเป็นพระนักปฏิบัติ นักพัฒนา ได้สร้างประโยชน์ให้ส่วนรวมมากมาย ทั้งถนนหนทาง ทำฝายเป็นแหล่งกักเก็บ

                หลวงปู่จื่อ เป็นที่เคารพของสาธุชนทั่วไป โดยเฉพาะชาวอำเภอหนองบัวระเหว ท่านเป็นผู้เปี่ยมไปด้วยบารมี ท่านเป็นพระนักปฏิบัติ นักพัฒนา ได้สร้างประโยชน์ให้ส่วนรวมมากมาย ทั้งถนน ฝายกักเก็บน้ำ มีอิทธิฤทธิ์ปรากฏ เมื่อท่านสร้างฝายเก็บน้ำ ๒ แห่ง ปรากฏว่า ฤดูฝนฝายร้าว ถึงขนาดนายอำเภอท่านนึงในพื้นที่ (ไม่สามารถเอ่ยนามได้) ต้องซ้อมแผนอพยพประชาชนที่อยู่ใต้ฝาย หลวงปู่ท่านเลยไปดูและเหยียบเหนือรอยร้าว ๓ ครั้ง ฝายทั้ง ๒ แห่งยังอยู่จนปัจจุบันนี้

 

 

โอวาท”ธรรม”

 

                ด้วยคำสอนพร้อมเสียงหัวเราะเบาๆ และรอยยิ้มของหลวงปู่จื่อที่เปี่ยมด้วยความเมตตา ทำให้ผู้ที่มาทำบุญมีความสุข ถึงแม้ว่าจะเดินทางไกลขนาดไหน ธรรมะง่ายๆ คำสอนที่ก่อนกราบลาที่หลวงพ่อฝากเราทุกคนก็คือ. “อยู่คนเดียวระวังความคิด อยู่กับมิตรระวังจิตตัวเอง..อะไรที่เป็นโทษอย่าไปทำ.”

                ขณะเดียวกันหลวงปู่จื่อยังสอนด้วยว่า “สถานการณ์ความแตกแยกในบ้านในเมืองเรามีมาก ประชาชนจำเป็นต้องฟังธรรมจะได้อภัยให้กันและกัน ใจดี ใจเบิกบาน ไม่เบียดเบียน ก็ไม่เดือดร้อน ทำบุญ รักษาใจ ใจมีธรรมะ ก็จะให้อภัย คิดถูก คิดชอบ เหมือนกันก็เป็นพี่น้องกัน เจ้าความคิดเป็นผีร้ายสุด จิตบริสุทธิ์ไม่มีผี”

 

                “ผู้ใดรักษาศีล ๕ นั้น ได้อย่างเคร่งครัด บุคคลนั้นเท่ากับมีคลังทองคำอยู่กับชีวิต แม้ท่านจะเกิดชาติใด ภพใดก็ไม่อับจน แล้วท่านอย่าเพิ่งสงสัย ให้ปฏิบัติดูจะรู้เอง”

ประชาสัมพันธ์
ประวัติพระเกจิดัง ฆราวาสขมังเวทย์ สาระพระเครื่อง